วันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ฮือฮาฟักทองประหลาด ออกยอดคล้ายพญานาค


ฮือฮา พบฟักทองประหลาด ออกยอดคล้ายพญานาค เจ้าของบ้านเผย ตั้งแต่ทำอาชีพเกษตรกร ไม่เคยเห็นฟักทองรูปร่างประหลาดเช่นนี้ ส่วนตัวมองเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่หลังชาวบ้านทราบข่าวแห่ดู ขอเลขเด็ดตามระเบียบ


เมื่อวันที่ 12 ก.พ.56 นี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 3 บ้านกุดสระแก้ว ต.วังยายทอง อ.เทพารักษ์ จ.นครราชสีมา เนื่องจากมีชาวบ้านลือว่ามีฟักทองประหลาด ออกยอดคล้ายพญานาค โดยได้พบกับ นายพงสรรค์ ชวนขุนทด อายุ 65 ปี เจ้าของบ้านดังกล่าว ยืนยันว่ามีฟักทองพญานาคจริง พร้อมกับนำผู้สื่อข่าวไปดูฟักทองประหลาดบริเวณหลังบ้าน


นายพงสรรค์ เล่าว่า ตนเองมาชีพเกษตรกร  เมื่อเสร็จจากฤดูทำไร่ทำนาก็จะปลูกพืชผักสวนครัวขาย เมื่อหลายวันก่อน ขณะที่ตนมาปรับที่ดินเตรียมปลูกผักนั้น พบว่าท่ามกลางพืชผักอื่นๆ นั้น กลับมีฟักทองขึ้นเขียวชอุ่มอยู่หนึ่งกอ และเมื่อสังเกตใกล้ๆ พบว่าที่ปลายยอดฟักทอง แทนที่จะเป็นเถาวัลย์กลมๆ เหมือนลำต้น กลับแผ่ขยายกว้างประมาณ 1 คืบ สูงจากพื้นประมาณ 50 ซม. มีดอกและใบออกจากข้อตากปกติ แต่ส่วนบนยอดกลับออกดอกและใบเป็นกลุ่มใหญ่คล้ายหัวพญานาค เมื่อมองโดยรวมจะเหมือนพญานาคโผล่จากพื้นดิน เมื่อเรื่องนี้ถึงหูชาวบ้าน ต่างก็พากันมาดูและพากันตีเป็นเลขเด็ดตามความเชื่อของแต่ละคน ส่วนตนเองแม้จะไม่เคยเห็นฟักทองประหลาดเช่นนี้มาก่อน แต่ก็มองว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่อยากให้ใครมาตีเป็นเลขเด็ด แต่ก็จะยังไม่ทำลายฟักทองประหลาดนี้ ปล่อยให้แห้งตายตามธรรมชาติของพืชล้มลุกชนิดนี้ต่อไป.


ขอขอบคุณไทยรัฐออนไลน์

พบเต่าปูลูที่ใกล้สูญพันธุ์เชื่อให้โชคให้ลาภ


เมื่อวันที่ 12 ก.พ. เวลา 06.30 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากพระครูสมบูรณ์ ประพากะโล อายุ 34 ปี เจ้าอาวาสวัดโป่งฝาง เลขที่ 187 หมู่ 4 บ้านโป่งฝาง ต.กลางดง อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย ว่ามีชาวบ้านพบเต่าปูลู ที่ฝายน้ำล้นบ้านโป่งฝาง จึงจับนำมาถวายที่วัดโป่งฝาง ได้เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบว่าชาวบ้านจำนวนมากกำลังยืนล้อมวงดูเต่าปูลูเพศผู้อยู่ที่ศาลาหน้าพระอุโบสถ


จากการตรวจสอบพบว่าเต่าปูลูมีขนาดลำตัวยาว 1 ฟุต หัวใหญ่ ปากแหลมงอคล้ายกับปากนกแก้ว บริเวณหางยาว 1 ฟุต มีลักษณะเป็นเกล็ดคล้ายตัวนิ่ม บริเวณขาทั้งสี่ข้างมีลักษณะเป็นเกล็ดสีดำ กระดองหลังแข็งสีเขียว มีลักษณะคล้ายตะพาบน้ำ


จากการสอบถามพระครูสมบูรณ์ ทราบว่าเมื่อเช้ามืดได้มีโยมนำเต่าที่จับได้จากฝายน้ำล้นบ้านโป่งฝางท้ายหมู่บ้านมาถวายที่วัด แต่ไม่ทราบว่าเป็นเต่าชนิดใด เนื่องจากมีลักษณะที่แปลกและไม่เคยมีชาวบ้านพบเต่าชนิดนี้มาก่อน กระทั่งข่าวได้แพร่สะพัดออกไปจนชาวบ้านทราบข่าวและแห่มาดูจนทราบว่าเต่าที่จับได้นั้นเป็นเต่าปูลู ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองประเภท 1 ซึ่งใกล้จะสูญพันธุ์แล้ว เนื่องจากเชื่อว่าเมื่อกินเต่าปูลูจะเป็นยาบำรุงร่างกายเช่นเดียวกับนอแรด จึงทำให้เกิดการล่าเต่าปูลู เพื่อส่งขายไปยังผู้ที่นิยมบริโภค จนปัจจุบันเต่าปูลูใกล้จะสูญพันธุ์ จนต้องขึ้นทะเบียนเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง


อย่างไรก็ดี ชาวบ้านเชื่อว่าเต่าปูลู ตัวที่จับได้ที่หนองน้ำบ้านโป่งฝางจะเป็นเต่านำโชคมาให้กับคนในหมู่บ้าน จึงได้ช่วยกันสร้างบ่อเต่าไว้ให้ และนำดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้เพื่อขอโชคลาภ และจะดูแลเจ้าเต่าปูลูตัวนี้ต่อไป ถ้ามีชาวบ้านพบเต่าปูลูนี้อีกก็จะนำมาถวายวัดโป่งฝาง

ขอขอบคุณไทยรัฐออนไลน์

ฮือฮาภาพคล้ายใบหน้าพระโผล่กลางต้นขี้เหล็กอายุนับร้อยปี

ฮือฮาภาพคล้ายใบหน้าพระโผล่กลางต้นขี้เหล็กอายุนับร้อยปี
 ฮือฮาภาพคล้ายใบหน้าพระโผล่กลางต้นขี้เหล็กอายุนับร้อยปี

เมื่อวันที่ 10 ก.พ.56 เวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายเกษม วงศ์เรือง อายุ 44 ปี บ้านเลขที่ 61 หมู่ 12 บ้านสันหนองเหนียว ต.ต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา ว่า พบเหตุการณ์แปลกประหลาดและอัศจรรย์ใจหลังจากที่ชาวบ้านสันป่างิ้ว และ บ้านสันหนองเหนียว หมู่ 12 ต.ต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา ได้พบเห็นรูปใบหน้าพระติดอยู่กับต้นขี้เหล็กอายุนับร้อยปี มีความสูงประมาณ 15 เมตร วัดรอบลำต้นได้ 5.80 เมตร ที่ยืนต้นภายในบริเวณวัดทองแสนขันธ์ เนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่และรกร้างมานนานในกลางทุ่งนาท้ายหมู่บ้าน หลังจากนั้นได้เดินทางไปดูพบว่ามีกลุ่มชาวบ้านร่วมร้อยคน พากันมุงดูพร้อมกับเอากล้องถ่ายรูปและโทรศัพท์มือถือถ่ายรูปใบหน้าคล้ายใบหน้าพระติดกับต้นขี้เหล็กตามลำต้นพบว่ามีภาพใหญ่และภาพเล็กรวมกันถึง 3 ภาพ


จากการเปิดเผยของนายนิรันดร์ แสวงงาม อายุ 53 ปี ผญบ.สันป่างิ้ว หมู่ 12 ต.ต๋อม อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา ว่าวันนี้เวลาประมาณ 10.00 น. ได้มีงานทำบุญอาคารอเนกประสงค์ที่ชาวบ้านได้สร้างขึ้นมาเพื่อใช้สาธารณประโยชน์ในหมู่บ้านหลังจากเสร็จสิ้นพิธีสงฆ์ แล้วได้มีนายกันตพล อ้อนบำรุง ผช.ผญบ.และชาวบ้านได้มองไปที่ต้นขี้เหล็กแล้วพบว่าที่ต้นขี้เหล็กมีภาพใบหน้าคล้ายใบหน้าพระติดอยู่กับต้นขี้เหล็กพร้อมกับเอากล้องถ่ายรูปไว้ จนกระทั่งชาวบ้านทราบเรื่องที่เกิดขึ้นจึงพากันเดินทางมาดูพร้อมกับเอา ดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้เพื่อขอโชคลาภ


นายหมื่น ดวงตา อายุ 76 ปี ชาวบ้านที่ปลูกบ้านใกล้กับแนวเขตวัดเก่า กล่าวว่า สถานที่แห่งนี้อดีตเคยเป็นวัดเก่าแก่ชื่อวัดทองแสนขันธ์ มีอายุร่วม 1,000 ปี และปัจจุบันอยู่กลางทุ่งนาใกล้กับบ้านของตน คืนขึ้น 15 ค่ำ เคยพบเห็นดวงแสงแก้วใสเปล่งแสงสีออกขาวสว่างไสวไปทั่วบริเวณวัดลอยไปลอยมาและดวงแก้วก็จะหายลงตรงขี้เหล็กต้นนี้ และเชื่อว่าภาพใบหน้าที่พบเห็นนั้นน่าจะเป็นเจ้าที่เจ้าทางหรือใบหน้าของผู้เป็นเจ้าของวัดหรือชาวบ้านเรียกว่าภาพใบหน้าปู่เสี้ยว และบางภาพก็มองคล้ายใบหน้าพระมีหู ตา จมูก ใบหน้าครบหมด ซึ่งนับว่าเกิดมาเพิ่งเคยพบเห็น


ด้านนายสุวรรณ์ วงศ์เรือง อายุ 75 ปี บ้านเลขที่ 61 หมู่ 12 บ้านหนองเหนียว ต.ต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา กล่าวว่า ตนเองเป็นเจ้าของพื้นที่ของวัดเก่าแห่งนี้ ซึ่งได้รับมรดกมาจากพ่อแม่ ซึ่งปัจจุบันได้มอบที่ให้เป็นสถานที่ก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ และจะได้มอบผืนที่นาทั้งหมดประมาณ 3 ไร่เศษ ให้กับหมู่บ้านสันป่างิ้ว เพื่อสร้างเป็นวัดทองแสนขันธ์ขึ้นมาใหม่ และภาพที่เกิดขึ้นก็ไม่เคยพบเห็นมาก่อนเช่นกัน นับว่าเกิดความอัศจรรย์ยิ่งนัก ส่วนต้นขี้เหล็กต้นนี้มีอายุไม่ต่ำกว่า 600 ปีหรืออาจจะมากร่วมพันปีตามที่ผู้เฒ่าปู่ย่าตายายบอกต่อกันมา.


ขอขอบคุณไทยรัฐออนไลน์

แห่ขอโชคลาภต้นตะเคียนยักษ์ลักษณะคล้ายหัวช้าง


ชาวบ้านโพนทัน อ.ปลาปาก จ.นครพนม ตื่นต้นตะเคียนยักษ์ ลักษณะคล้ายหัวช้าง หลังขุดพบในลำห้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ขุดพบต้นตะเคียนมาแล้ว 1 ต้น จุดธูปเทียนอัญเชิญไปไว้ที่วัด เพื่อให้ชาวบ้านกราบไหว้ บูชาขอโชคลาภตามความเชื่อ ...


เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2556 ชาวบ้านโพนทัน ต.หนองฮี อ.ปลาปาก จ.นครพนม แตกตื่นแห่ขอโชคลาภต้นตะเคียนยักษ์ หลังขุดพบเป็นต้นที่ 2 โดยก่อนหน้านี้ ได้ขุดพบบริเวณทุ่งนา บ้านเหล่าภูมี ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม ส่วนต้นที่ 2 ชาวบ้านได้ขุดพบหลังผู้รับเหมาเข้าดำเนินการขุดลอกลำห้วยแคนสาธารณะประโยชน์ ในพื้นที่บ้านโพนทัน ต.หนองฮี อ.ปลาปาก จ.นครพนม ซึ่งฝังอยู่ใต้ลำห้วยลึกประมาณ 7 เมตร มีความยาวลำต้นประมาณ 6 เมตร หน้ากว้างเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 เมตร น้ำหนักราว 5 ตัน บริเวณโคนต้นมีลักษณะคล้ายหัวช้าง จึงให้ชื่อว่า ตะเคียนพญาช้างสาร โดยชาวบ้านได้ใช้รถแบ็กโฮยกมาเก็บไว้ที่วัดในหมู่บ้าน
นายบัณฑิต วรกิจ อายุ 62 ปี ชาวบ้านโพนทัน ต.หนองฮี อ.ปลาปาก จ.นครพนม เล่าถึงที่มาของต้นตะเคียนว่า หลังมีผู้รับเหมาเข้าไปดำเนินการขุดลอกลำห้วยสาธารณะประโยชน์ เพื่อใช้เป็นที่เก็บกักน้ำใช้ในการเกษตร พอใช้รถแบ็กโฮ ขุดลึกลงประมาณ 7 เมตร ได้พบขอนไม้ขนาดใหญ่กลางลำห้วย จึงแจ้งชาวบ้านมาดู และตรวจสอบพบว่าเป็นไม้ตะเคียน มีความยาวลำต้นประมาณ 6 เมตร หน้ากว้างเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3 เมตร น้ำหนักราว 5 ตัน จึงนำมาเก็บรักษาไว้ที่วัด ให้ชาวบ้านได้กราบไหว้บูชา ขอโชคลาภ เนื่องจากเชื่อว่าไม้ตะเคียนเป็นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ที่มีเจ้าแม่ดูแลปกปักษ์รักษา ซึ่งถือเป็นสิริมงคลแก่หมู่บ้าน ที่สำคัญในช่วงที่ชาวบ้านทำการขุดต้นตะเคียนขึ้นมาจากลำห้วย แล้วใช้รถเครนยกนั้น ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาด
เมื่อรถเครนไม่สามารถยกต้นตะเคียนขึ้นมาได้ ชาวบ้านจึงทำพิธีขอขมาถวายดอกไม้ธูปเทียนตามความเชื่อ พอลองยกอีกครั้งก็สามารถยกได้ ทำให้ชาวบ้านแตกตื่นไปใหญ่ เชื่อว่าเป็นความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าแม่ตะเคียน ซึ่งหลังจากนำมาไว้ที่วัด ก็มีประชาชน มากราบไหว้ทำบุญจำนวนมาก และเงินที่ได้จากการทำบุญจะนำไปสร้างศาลาการเปรียญที่กำลังก่อสร้าง เชื่อว่าส่วนหนึ่งเป็นโชคของชาวบ้านที่เจ้าแม่ตะเคียนจะมาช่วยสร้างวัด ที่ขาดปัจจัยในการก่อสร้างอีกจำนวนมาก
สำหรับไม้ตะเคียนดังกล่าวตามความเชื่อในอดีต ถือเป็นไม้มงคลศักดิ์สิทธิ์ ที่มีเจ้าแม่และเทวดาปกปักษ์รักษา ชาวบ้านจะไม่นิยมนำมาทำบ้าน ส่วนใหญ่จะนำไปทำเรือ หรือสร้างวัดตามความเชื่อ ซึ่งพื้นที่พบนั้นในอดีตเคยเป็นหมู่บ้านเก่าที่ร้าง มีการอพยพย้ายถิ่นมาอยู่ในหมู่บ้านปัจจุบัน และยังเป็น หนองน้ำ ที่ชาวบ้านเรียกว่า วังอาบช้าง เนื่องจากจะมีขวานช้างนำช้างมาพัก ลงอาบน้ำ ส่วนไม้ตะเคียนดังกล่าว เชื่อว่าชาวบ้านในอดีตจะตัดไปทำเรือ แต่อาจจะมีปัญหาเนื่องจากลำต้นไม่เหมาะ จึงปล่อยทิ้งไว้ และอายุเก่าแก่น่าจะไม่ต่ำกว่า 1,000 ปี เมื่อชาวบ้านขุดพบถือเป็นเรื่องดี เป็นสิริมงคล กับชาวบ้าน หรือผู้ที่ได้มากราบไหว้บูชา.

ขอขอบคุณไทยรัฐออนไลน์

ขุดเจอตะเคียนยักษ์กลางหนองน้ำบ้านเชียงแล


ชาวบ้านเชียงแล จ.น่าน ฮือฮา ขุดเจอไม้ตะเคียนยักษ์อายุกว่า 300 ปี กลางหนองน้ำสาธารณะของหมู่บ้าน เผยคนงานที่มานอนเฝ้ารถแบ็คโฮริมหนองน้ำฝันประหลาดติดต่อกัน 3 คืน ว่ามีหญิงสาวลงมาเล่นน้ำบริเวณจุดที่ขุดพบ เชื่อเป็นอิทธิฤทธิ์เจ้าแม่ตะเคียนมาดลใจ


วันนี้ (5 ก.พ.) นายแหลมทอง สุทธไชย  นายก อบต.ริม อ.ท่าวังผา จ.น่าน นายหวล ถุงเสน กำนัน ต.ริม นายเกษม เชียงหนุ้น  ผู้ใหญ่บ้านเชียงแล หมู่ 6 พร้อมด้วยชาวบ้านเชียงแล  หมู่ 4 และ หมู่ 6 นับร้อยคน  ต่างพากันนำดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้สักการะต้นตะเคียนโบราณขนาดใหญ่ ความยาว 23.60 เมตร และหน้ากว้าง 3.10 เมตร ที่คนงานขุดขึ้นมาจากได้ใต้หนองน้ำสาธารณะ หมู่บ้านเชียงแล หมู่ 4 ต.ริม


นายหวล ถุงเสน  กำนันตำบลริม  เปิดเผยว่า  คนงานที่มานอนเฝ้ารถแบ็คโฮที่ใช้ในการขุดลอกหนองน้ำเพื่อป้องกันภัยแล้ง  ได้ฝันประหลาดติดต่อกันมา 3 คืน ว่ามีผู้หญิงลงมาเล่นน้ำ ตรงจุดที่ขุดพบท่อนไม้โบราณ กระทั่งวันที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา  คนงานได้ขุดหน้าดินออก และพบว่ามีท่อนไม้ฝังอยู่จริงๆ  จึงพยายามช่วยกันขุดหน้าดินออกไปเรื่อยๆ  ก็พบว่าเป็นท่อนไม้ใหญ่ กระทั่งวันนี้ ได้ใช้รถแบ็คโฮ 2 คัน ช่วยกันดึงท่อนไม้ขึ้นมา เบื้องต้นคาดว่าเป็นไม้ตะเคียน อายุมากกว่า 300 ปี ทั้งนี้ชาวบ้านพากันเชื่อว่าเป็นอิทธิฤทธิ์ของเจ้าแม่ตะเคียนมาดลใจให้ขุดพบ จึงพากันนำดอกไม้ธูปเทียน และขนมมากราบไหว้บูชา


ทางด้าน นายแหลมทอง สุทธไชย  นายก อบต.ริม  กล่าวว่า  ได้เตรียมประชุมหารือกับกำนัน ตำบลริม   และผู้ใหญ่บ้านเชียงแล  พร้อมด้วยคณะกรรมการหมู่บ้าน  เพื่อเตรียมปรับพื้นที่และสร้างศาลาขนาดใหญ่ เตรียมจัดทำพิธีใหญ่ขอขมาและอัญเชิญไม้โบราณไปไว้ยังวัดเชียงแล  สำหรับให้เป็นสิริมงคลประจำหมู่บ้านด้วย.

ขอขอบคุณเดลินิวส์